ตอนนี้พฤติกรรมของผมและหลายคนคงเปลี่ยนไปแล้ว เรามักจะดูคลิปหรือรายการผ่านมือถือ ถ้าชอบอันไหน ก็ค่อยcast จากมือถือขึ้นไป แต่ไม่ใช่ทุกคนที่คิดและทำแบบเรา พ่อผมยังอยากดูทีวีแบบเดิมคือ เปิดทีวีทิ้งไว้เรื่อยๆ
ผมพยายามอธิบายว่า ตอนนี้เราถึงยุคที่เราเป็นผู้เลือกรายการดูแล้วนะ จะไปดูรายการที่เราไม่ได้อยากดูทำไม แต่อยู่ๆดีจะไปเปลี่ยนพฤติกรรมของพ่อที่ดูแบบนั้มาหลายสิบปีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย จนมีการงอนกัน ถถ
ผมนึกขึ้นได้ว่า เป้าหมายแท้ๆของผมคือ ผมอยากให้ทุกฝ่ายแฮปปี้ ไม่ได้อยากจะโต้วาทีชนะพ่อ ซึ่งชนะไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา คิดได้ก็เลยจะหาวิธีติดตั้งให้แก
แต่ปัญหาคือ จุดใหม่ ไม่ได้ต่อสายอากาศไว้ ก็เลยหาเสาอากาศภายในมา ซึ่งพบปัญหาว่า คุณภาพที่รับได้ มันไม่ค่อยเสถียร ระดับ 30 กว่าๆ ก็จะดูไม่ได้เป็นระยะ ก็เลยค้นว่าเจอเสาภายที่รับสัญญาณดีกว่า
เลยฝากพ่อซื้อ แต่ปรากฏว่า ได้ของเสียมา (จริงๆตรงนี้จะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ก็ได้ เพราะพ่อและพนงไม่ได้ทดสอบ แถมที่กล่องผมเห็นมีสติ๊กเก้อติดว่า”เสีย”ด้วยซ้ำ)
ผมก็อาสาว่า เดี๋ยวผมไปเปลี่ยนเอง พนงเค้าขอโทษก็เปลี่ยนให้ใหม่เลย ผมถามว่า “แล้วทดสอบหรือยังครับ” เค้า”ก็อ้อ จริงด้วย” แล้วพาไปทดสอบ ก็โอเคไฟเข้า
กลับบ้านมา ลองเลย พบว่ามันไม่ด้ต่างกับเสาสั้นเลย จนกระทั่ง ลองสำรวจแวดล้อม ที่มุมอับมาเจอขอบกำแพงบัง ผมเลยวางเสาที่เขาออกแบบแนวตั้งให้เป็นแนวนอน ปรากกฏว่า เอ้ย สัญญาณดีขึ้นมาก !จากระดับ 30-40 > 60 กว่าๆเลย อาจไม่ดีมาก แต่ก็มากพอที่จะแก้ปัญหาได้
ข้อคิดที่ได้ บางทีเราอยากจะแก้ปัญหา ดูปัจจัยแวดล้อมประกอบด้วยก็ดี เพราะปัญหาเดียวกัน แต่ต่างปัจจัยแวดล้อม ก็ต้องแก้ปัญหาต่างกัน แม้นว่าของที่มีจะออกแบบมาอีกแบบก็อะนะ
ข้อคิดอีกข้อ การเปลี่ยนพฤติกรรม ต้องใช้เวลา อย่าเอาตัวเองเป็นมาตรฐาน มองในมุมของคนอื่นบ้าง ก็จะเข้าใจเค้ามากขึ้น
เป้าหมายของปัญหาคือ “ลด บรรเทา ไม่ใช่เพิ่มขนาดของปัญหาหรือเพิ่มใหม่”
ขนาดของปัญหา ขึ้นอยู่กับความสามารถในแก้ปัญหาก็จริง แต่ระหว่างที่ยังแก้ไม่ได้ ขนาดของมันขึ้นกับทัศนคติของเราแล้วละ
ปล ไม่เกี่ยวกับหุ้นใดๆนะ ถถถ