เรื่องมีอยู่ว่า อ่านเจอในกระทู้ Thaivi พูดถึง ร้านมือถือที่ดูเหมือนไม่ค่อยมีลูกค้า
เมื่อเทียบกับ Operator
Tallenough :
วันเสาร์สิ้นเดือนอย่างนี้ มีเวลาเลยมาเดินเล่นที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้าครับ
ดูเปรียบเทียบจำนวนคนในร้าน Jaymart เทียบกับ operator ทั้ง 3 ราย
ร้านของ operator คนแน่นทุกร้านครับ
ส่วนของ Jaymart ค่อนข้างเงียบ มีพนักงานมากกว่าลูกค้า
ไม่รู้สาขาอื่นเป็นยังไงกันบ้างครับ เราควรจะต้องกังวลไม๊ครับ ^^*
ผมเลยเข้าไปร่วมแสดงความคิดด้วย
จริงๆแล้ว ผมก็เคยคิดแบบนี้ กับทุกๆร้านนะคับ
แต่สุดท้ายแล้ว ผมค้นพบว่า การที่เราใช้ความรู้สึกวัด
มันเป็น snapshot เรามาเจอช่วงคนเยอะ คนน้อย
หรือคนที่เข้าร้านด้วยวัถตุประสงค์แตกต่างกันอย่าง operator คนเข้ามาทำอะไรบ้าง
จ่ายบิล เปลี่ยน package บริการหลังการขาย ซื้อมือถือ
จีบพนักงาน ฉะนั้นการที่คนจะเยอะกว่า ก็สมควรแก่เหตุกลับมาที่วิธีวัดของผม สามารถลองเอาไปใช้ได้กับทุกประเภทกิจการ
ผมจะเอารายได้ของแต่ละไตรมาสที่ควรทำได้
แล้วหารด้วยจำนวนร้านทั่วประเทศ ควรขายได้เท่าไหร่
ที่ควรขายได้ต่อวัน แล้วเอาราคาเฉลี่ย/บิล มาหาร
ก็จะเห็นภาพละคับ ว่าบางที ลูกวันละ 30 คน ห้างเปิด 10.00-21.00
มีลูกค้าเฉลี่ยชั่วโมงละ 2-3 คน ก็ทำได้ตามค่าเฉลี่ยละคับแต่มันก็ช่วง peak hour ด้วย ยังไงเวลาเดินผ่าน ลองเข้าไปคุยกับพนง
ถามยอดคร่าวๆ ว่าขายได้กี่เครื่องละ ก็พอจะเห็นภาพ
แต่ก็อีกนั่นแหละ ว่ามันก็นะเป็น snapshot อยู่ดี แต่ถ้า snapshot จำนวนเยอะ
ก็พอบอกอะไรได้ครับสรุป ผมจะแปลงความรู้สึก ให้เป็นค่าที่วัดได้ แล้วมาเทียบครับ^^
ไหนๆก็ตอบกระทู้มาขนาดนี้ จากที่เคยคิดแต่ในใจ
ก็เลยทำเป็นตารางให้ดูกันเลยครับ โดยยกตัวอย่างร้าน Jaymart นีแหละ
พอเราคำนวณมาเห็นตัวเลข 1.63 เครื่อง/ร้าน/ชั่วโมง
หรือถ้าแปลงเป็นตัวเลข เฉลี่ยทุก 36 นาทีร้านควรจะขายได้ 1 เครื่อง(ที่ราคา 6,123 บาท)
ถ้ามีคนมาซื้อ iPhone ที่ราคา 3หมื่น ก็แทบจะกินค่าเฉลี่ยไปได้เกือบ 5 ชั่วโมงแล้ว
หวังว่าพอจะทำให้เห็นภาพได้ชัดขึ้น กว่าใช้ความรู้สึกแต่เพียงอย่างเดียวนะครับ
อ้อ แล้วเราก็ลองประยุกต์ใช้กับธุรกิจอื่นๆได้ด้วยนะ
ปล จริงๆ Jaymart มีทั้งขายปลีก/ขายส่ง แล้วก็ร้านหลายๆแบบ แต่ละแบบก็ขายดีไม่เท่ากันหรอก
แต่เราคำนวณเพื่อให้เห็นภาพโดยรวม เพื่อให้เห็นภาพคร่าวๆสอดคล้องในโจทย์นี้เนาะ